ตำรวจทางหลวงเปิดช่องทางพิเศษ เร่งระบายรถเข้า กทม.

พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล รองผู้บังคับการตำรวจทางหลวง(รอง ผบก.ทล.) กล่าวถึงภาพรวมการเดินทางกลับเข้ากรุงเทพมหานครของประชาชน หลังเดินทางกลับจากภูมิลำเนาและท่องเที่ยว ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 โดยพบว่า เส้นทางสายเหนือ ปริมาณรถมาก ตั้งแต่ จ.กำแพงเพชร – จ.พิจิตร , เส้นบายพาสเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ (กม.122) การจราจรติดขัด เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้เปิดช่องทางพิเศษ เพื่อระบายรถ บริเวณ ถ.พหลโยธิน กม.332-321 ระยะทาง 11 กม. / ส่วนเส้นทาง ทล.32 จ.สิงห์บุรี เจ้าหน้าที่เปิดช่องทางพิเศษ บริเวณต่างระดับอินทร์บุรี ระยะทาง 5 กม. ตั้งแต่ กม.107-102 เนื่องจากปริมาณรถหนาแน่น ตั้งแต่จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดอ่างทอง และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กระทั่งถึงบริเวณ กม.0 สายเอเชีย จุดแยกไปวงแหวนตะวันตก วงแหวนตะวันออก รังสิต เข้าสู่กรุงเทพฯ

เส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะนี้การจราจรหนาแน่น ปริมาณรถมาก ในเขตอำเภอพล จังหวัดขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ได้เปิดช่องทางพิเศษ บริเวณขาเข้า กม.266-259 และอีกหลายช่วงบนถนนมิตรภาพ กระทั่งถึง จ.นครราชสีมา เส้นทางมอเตอร์เวย์สายลำตะคอง-สีคิ้ว (M6) ปริมาณหนาแน่นบริเวณทางเข้า กม.5 (ทล.201) เมื่อเข้าสู่มอเตอร์เวย์ สามารถเคลื่อนตัวได้ดี เป็นระยะทาง 35 กม. และชะลอตัวอีกครั้งบริเวณทางออกมอเตอร์เวย์ (M6) เพื่อเข้าสู่ถนนมิตรภาพ กม.65 และได้เปิดช่องทางพิเศษในเขต จ.นครราชสีมา – จ.สระบุรี เส้น ทล.21 ที่รับรถมาจาก จ.เพชรบูรณ์ และ จ.ชัยภูมิ ปริมาณรถจะหนาแน่นบริเวณแยกม่วงค่อม จ.ลพบุรี และปริมาณรถจะหนาแน่นอีกครั้ง เมื่อมาถึง ถ.พหลโยธิน จ.สระบุรี ขณะนี้ได้เปิดช่องทางพิเศษอีก 3 ช่องทาง ที่กม.99 จ.สระบุรี มาออกบริเวณ กม.74 จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อระบายรถมุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ
ทล.304 วังน้ำเขียว – ปักธงชัย ขณะนี้ปริมาณรถหนาแน่น โดยได้เปิดช่องทางพิเศษ กม.221 ออก กม.216 เพื่อมุ่งหน้าสู่ จ.ปราจีนบุรี ทล.348 โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ เชื่อมต่อ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ได้เปิดช่องทางพิเศษ บริเวณ กม.73 ออก กม.71 ทั้งนี้ เส้นทางสาย ทล.304 และ ทล.348 ปริมาณรถจะมารวมกันที่ อ.เขาหินซ้อน จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นจุดก่อสร้าง ลักษณะเป็นคอขวด (จาก 5 เลน เหลือ 2 เลน) ทำให้รถเคลื่อนตัวได้ช้า สลับหยุดนิ่ง เมื่อพ้นจุดคอขวดแล้ว การจราจรคล่องตัว

“ตำรวจทางหลวง ขอความร่วมมือประชาชนโปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง หากเกิดอาการเหนื่อยล้า หรือง่วงนอน สามารถจอดแวะพักได้ที่หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวง 201 แห่งทั่วประเทศ หรือต้องการสอบถามเส้นทาง ต้องการขอความช่วยเหลือ สามารถโทรสายด่วน 1193 ตำรวจทางหลวง ได้ตลอด 24 ชม.”