หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงไทรโยค กาญจนบุรี ดักจับคนร้ายงัดตู้ไฟทางหลวง คาด ทำมาแล้วหลายครั้ง

ดักจับโจรตระเวนงัดตู้ควบคุมไฟทางหลวง ทำไฟถนนดับระนาว จนท.ไม่เชื่อทำแค่ 4 ครั้ง พบคนร้ายก่อเหตุต่อเนื่องตั้งแต่ ม.ค. 65

เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2565 ตำรวจทางหลวงไทรโยค พร้อมเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงกาญจนบุรี ร่วมกันจับกุมนายบัณฑิต จันทอน อายุ 44 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 13/5 หมู่ 4 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ขณะนายบัณฑิตกำลังใช้มีดและคีม งัดตู้ควบคุมไฟแสงสว่างริมถนนทางหลวงสาย 323 กายจนบุรี-ไทรโยค บริเวณบ้านลาดทอง ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

ในระหว่างการเข้าจับกุม นายบัณฑิตพยายามวิ่งหลบหนีเข้าไปในไร่อ้อย แต่สุดท้ายก็ถูกจับกุมตัวเอาไว้ได้ พร้อมของกลางเป็นรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีแดงดำ หมายเลขทะเบียน 1 กข 6388 กาญจนบุรี มีด 1 เล่ม คีมตัดสายไฟ 1 อัน ท่อแป๊บเหล็กครอบสายไฟ และฝาครอบมิเตอร์ไฟฟ้า

สอบสวนนายบัณฑิตรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุเข้าไปงัดตู้ควบคุมไฟฟ้าแสงสว่างริมถนนทางหลวงจริง ก่อเหตุมาแล้วประมาณ 4 ครั้ง จะลักตัดเอาสายไฟ อุปกรณ์ควบคุมกระแสไฟฟ้า และท่อแป๊บเหล็กครอบสายไฟ นำไปขายให้กับร้านรับซื้อของเก่าในพื้นที่

ทั้งนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่พิจารณากพฤติกรรมการก่อเหตุของนายบัณฑิต เชื่อว่าน่าจะเป็นคนร้ายรายเดียวกับที่ตระเวนก่อเหตุงัดตู้ควบคุมไฟฟ้าแสงสว่างริมถนนทางหลวงในพื้นที่ อ.เมืองกาญจนบุรี ซึ่งตระเวนก่อเหตุอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงเดือน ม.ค. 2565 จนถึงปัจจุบัน

นายแสงทอง พาแก้ว ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงกาญจนบุรี กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา คนร้ายตระเวนก่อเหตุงัดตู้ควบคุมไฟฟ้าแสงสว่างริมถนนทางหลวง ในพื้นที่ อ.เมืองกาญจนบุรี มาแล้วหลายครั้ง ทั้งบริเวณถนนสายเลี่ยงเมืองกาญจนบุรี ถนนสาย 323 กาญจนบุรี-ไทรโยค และถนนสาย 3199 กาญจนบุรี-ศรีสวัสดิ์ ซึ่งเป็นถนนที่มีประชาชนและนักท่องเที่ยวใช้สัญจรไปมาเป็นจำนวนมาก

นายแสงทอง กล่าวต่อว่า การก่อเหตุของคนร้าย นอกจากจะทำให้เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์ของทางแขวงทางหลวงแล้ว ยังทำให้ไฟส่องสว่างบนถนนทางหลวงดับไปด้วย ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างมาก โดยตู้ควบคุม 1 ตู้ รับผิดชอบเสาไฟฟ้าส่องสว่างถึง 36 ต้น ซึ่งคนร้ายก่อเหตุมาแล้วถึง 26 ตู้ ทำให้เกิดไฟฟ้าส่องสว่างดับกินระยะทางค่อนข้างมาก

นายแสงทอง กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาตู้ควบคุมแต่ละจุดจะใช้อุปกรณ์ควบคุมแบบออโตเมติก มีการตั้งเวลาเปิดปิดไฟเอาไว้เป็นเวลา ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวมีราคาแพงชุดละหลายหมื่นบาท เมื่อถูกคนร้ายขโมยไป เจ้าหน้าที่ได้แก้ไขโดยการใช้อุปกรณ์ควบคุมแบบแมนนวล ไปเปลี่ยนแทนชุดที่โดนขโมย และต้องให้เจ้าหน้าที่ของแขวงทางหลวงไปเปิดปิดอุปกรณ์ด้วยตนเองทุกวัน แต่สุดท้ายยังถูกก่อเหตุซ้ำในจุดเดิมอีก ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องมาวางแผนร่วมกัน กระทั่งสามารถดักจับกุมคนร้ายรายนี้ได้ในที่สุด