ตำรวจทางหลวงลำปาง รวบเสี่ยหึงโหดยิงหนุ่มดับคารีสอร์ท พบประวัติก่อเหตุรุนแรง 5 คดี

ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง

9 ก.ย.2565 เมื่อเวาลา 10.00 น. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แถลงผลการจับกุมนายรุ่งโรจน์ (สงวนนามสกุล) ชาว อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ขณะขับรถยนต์เก๋ง ฮอนด้า ซีวิค สีขาว ของ น.ส.เบญจมาศ (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ชาว อ.ชนบท จ.ขอนแก่น ซึ่งนั่งอยู่เบาะข้างคนขับ บริเวณทางหลวงเกาะคา ต.เกาะคา อ.เกาะคา จ.ลำปาง เตรียมจะข้ามพรมแดน ไทย-เมียนมา หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงชายอายุ 27 ปี ที่คอและหน้าอก รวม 3 นัด เสียชีวิตคาอ่างน้ำของรีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 7 ก.ย.2565 ก่อนที่แม่บ้านจะมาพบศพช่วงเช้าของวันถัดมา

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 ก.ย.2565 ช่วงประมาณ 14.00 น. นางสาวเบญจมาศซึ่งเป็นแฟนของนายรุ่งโรจน์ออกไปเที่ยวกับผู้ตายที่รีสอร์ตดังกล่าวโดยเปิดห้องพักไว้จำนวน 1 ห้องก่อนนั่งดื่มแอลกอฮอล์และทานอาหารอยู่กับผู้ตายที่หน้าห้องพัก

ต่อมาเวลาประมาณ 20.00 น. ขณะที่ผู้ตายอยู่ที่อ่างน้ำด้านข้างห้องพัก นายรุ่งโรจน์ได้เดินเข้ามาทางด้านหน้าของห้องพักและใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงไปที่ผู้ตาย 3 นัด กระสุนเข้าที่ลำคอ 1 นัดและลำตัวอีก 2 นัด เสียชีวิตอยู่ในอ่างน้ำจากนั้นจึงพาตัว น.ส.เบญจมาศ ขึ้นรถยนต์ซีวิค สีขาวซึ่งเป็นรถของ น.ส.เบญจมาศ หลบหนีออกจากรีสอร์ต

หลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น ประสานข้อมูลมายังกองกำกับการ 3 กองปราบปราม เพื่อร่วมกันติดตามจับกลุ่มผู้ต้องหาซึ่งคาดว่าจะมีอาวุธปืนติดตัวไปด้วย พร้อมกับประสานตำรวจทางหลวง ตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อจับกุมผู้ต้องหาตามเส้นทางที่คาดว่าจะใช้หลบหนี

กระทั่งวานนี้( 8 ก.ย.2565) เวลาประมาณ 18.00 น. ตำรวจทางหลวงจุดบริการประชาชนทางหลวงเกาะคา อ.เกาะคา จ.ลำปาง ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัยซึ่งมีตำหนิรูปพรรณตรงกับที่ได้รับประสานไว้กำลังขับมุ่งหน้าไปยัง จ.เชียงใหม่ จึงเรียกหยุดรถเพื่อตรวจค้น พบนายรุ่งโรจน์ และ น.ส.เบญจมาศ ในรถคันดังกล่าว และยังพบอาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืน 47 นัด จึงจับกุมตัวไว้

จากการสอบปากคำ นายรุ่งโรจน์ ยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุใช้ปืนยิงจำนวน 3 นัดจริง ส่วนสาเหตุของการลงมือครั้งนี้ ทั้งนายรุ่งโรจน์และ น.ส.เบญจมาส ยังให้การขัดแย้งกันทั้งประเด็นเรื่อง ความหึงหวงหรือเรื่องเงิน ซึ่งไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน เนื่องจาก ผู้ต้องหาให้การว่า น.ส.เบญจมาศ ได้ให้ตนมาจัดการผู้ตายเนื่องมีปัญหาการเงินกับผู้ตาย ซึ่งคำให้การของผู้ต้องหาขัดแย้ง กับคำให้การของ น.ส.เบญจมาศ โดย นางสาวเบญจมาศ อ้างว่าผู้ต้องหาหึงหวงตนจึงแอบสะกดรอยมายิงผู้ตาย ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของทั้งสองคน

เบื้องต้น ตำรวจดำเนินคดีนายรุ่งโรจน์ ข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนควบคุมตัวส่ง สภ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย นอกจากนี้ยังพบประวัติว่านายรุ่งโรจน์ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับอีก 5 คดี ทั้งคดีพยายามฆ่า พกพาอาวุธปืน และคดีทำร้ายร่างกาย ตั้งแต่ปี 2553, 2555 และ 2563 โดยยังอยู่ระหว่างหลบหนีการประกันในชั้นศาล