พ.ต.ท.ธนศักดิ์ ปราสาททอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. พร้อมด้วย ร.ต.อ.ภาณุ พละศักดิ์ รอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. ขณะออกปฏิบัติหน้าที่ ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ว่า นายณัฐวุฒิ บัวแย้ม ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.บางคล้า ว่า รถโดยสารไม่ประจำทาง (รถบัส) หมายเลขทะเบียน 33-7966 กรุงเทพมหานคร เสียบกุญแจรถทิ้งไว้ จอดไว้ที่ลานจอดรถของบริษัท ใน ต.เสม็ดเหนือ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ได้หายไป จึงได้ตรวจสอบสัญญาณ จีพีเอส พบว่า รถคันดังกล่าว ปรากฏสัญญาณอยู่ที่บริเวณถนนสายเอเชีย หมายเลข 32 ต.บ้านหว้า อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จากนั้น จึงได้ประสานมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง 1 (อยุธยา) กองกำกับการ 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง เมื่อได้รับแจ้งดังกล่าวจึงรีบออกตรวจสอบ พบรถโดยสารไม่ประจำทาง (รถบัส) ตามที่ได้รับแจ้งบริเวณถนนสายเอเชีย (ช่องทางคู่ขนาน) ขาออกกรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงลงไปตรวจสอบ แต่ไม่พบบุคคลใดเป็นคนขับ ต่อมา ได้พบว่า มีบุคคลเป็นชาย ได้แอบขึ้นไปขับรถวิทยุตำรวจทางหลวง ของเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงที่เข้าไปตรวจสอบรถ โดยคนร้ายฯ ได้ขับขี่รถยนต์เก๋งขึ้นสะพานกลับรถ บริเวณถนนสายเอเชีย กิโลเมตรที่ 11 และขับมุ่งหน้าเข้ามากรุงเทพมหานคร ต่อมาทราบว่า คนร้ายขับรถวิทยุตำรวจทางหลวง มุ่งหน้ามาบนถนนพหลโยธิน (ช่องทางด่วน) ขาเข้ากรุงเทพมหานคร บริเวณ ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา และรถยนต์เก๋ง (รถวิทยุตำรวจทางหลวง) ดังกล่าวได้ประสบอุบัติเหตุตกร่องกลางถนนได้รับความเสียหาย
จากนั้น ชายคนร้ายได้วิ่งหลบหนีเข้าไปยังหอพักในบริเวณใกล้เคียง และมีพลเมืองดี แจ้งเจ้าหน้าที่ว่า พบบุคคลเป็นชาย ถอดเสื้อ เดินออกมาจากหอพักแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงเข้าไปตรวจสอบ พบชายคนดังกล่าว คือ นายประสิทธิ์ มองขุนทุด อายุ 38 ปี เดินอยู่บริเวณ หน้าบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับหอพักที่พลเมืองดีแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตน และขอตรวจค้นผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด จากการสอบถาม นายประสิทธิ์ฯ ยอมรับว่า เป็นคนร้ายที่ก่อเหตุลักทรัพย์รถวิทยุตำรวจทางหลวง จริง โดยระหว่างทางหลบหนี ประสบอุบัติเหตุ จึงวิ่งหนีเข้าไปที่หอพักและนำเสื้อยืดและกางเกงยีนส์ที่สวมใส่ในการก่อเหตุ และกุญแจรถโดยสารไม่ประจำทาง (รถบัส) มาทิ้งไว้ที่บริเวณหลังหอพัก และได้หยิบกางเกงผ้าสีดำ ขายาว ไม่ทราบว่าเป็นของใครวางอยู่หลังหอพักมาสวมใส่แทน และได้เสพยาเสพติดมาก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวไปตรวจหาสารเสพติด พบมีสารเสพติดในร่างกาย จึงแจ้งข้อหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน, เป็นผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย , เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย และจากการตรวจสอบประวัติการต้องโทษคดีอาญา พบว่า ผู้ต้องหารายนี้เคยถูกดำเนินคดีในข้อลักทรัพย์ มาแล้วหลายคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางปะอิน ดำเนินคดี ตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ ตำรวจทางหลวง จะดำเนินการอย่างเข้มงวดเพื่อกวดขันผู้กระทำความผิดบนเส้นทางหลวงอย่างเคร่งครัด ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในการระดมกวาดล้างอาชญากรรมทุกประเภทอย่างต่อเนื่อง หากประชาชน พบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1193 ตำรวจทางหลวง.