กองบังคับการตำรวจทางหลวง กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.ชัช สุกแก้วณรงค์ รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล. พ.ต.อ.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ รอง ผบก.ทล. พ.ต.อ.ชาคริต มงคลศรี รอง ผบก.ทล. พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล รอง ผบก.ทล. พ.ต.อ.จตุพล เร่งถนอมทรัพย์ รอง ผบก.ทล. พ.ต.อ.เด่นหล้า รัตนกิจ ผกก.8 บก.ทล. พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม ผกก.5 บก.ทล. พ.ต.ท.ณัฐพล ผ่องสุขสกุล พ.ต.ท.สมพงษ์ เอกวัฒ รอง ผกก.5 บก.ทล. พ.ต.ท.อรรถพล พลพรม รอง ผกก.8 บก.ทล. พ.ต.ท.ภคพล สุชล สวญ.ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล. พ.ต.ท.ต่อสกุล แสนสุรีย์รังสิกุล สว.ส.ทล.3 กก.5 บก.ทล. และ พ.ต.ต.ชยธร ถวิลเพชรสกุล สว.ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล. ชุดปฏิบัติการบูรณาการร่วม นำโดย ร.ต.อ.วงประวัตร์ สาธเรศ ร.ต.อ.อภิภพ กิจพฤกษ์ รอง สว. ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล. ร.ต.อ.คมกฤษณ์ เพ็ชรชาญชัย รอง สว.ส.ทล.3 กก.5 บก.ทล. ด.ต.เปรมวิศุทธ์ พัฒนอติพงศ์ ส.ต.อ.ภาสกร ตรีภพ ผบ.หมู่ ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล. ด.ต.ประทีป มีอุดร และด.ต.ทนงศักดิ์ ขวัญนวล ผบ.หมู่ ส.ทล.3 กก.5 บก.ทล. ร่วมกันจับกุม นายฤทธิชัย อายุ 35 ปี ชาว จ.เพชรบุรี ตาม หมายจับศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเพชรบุรี ลงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2559 ความผิดฐาน “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย และพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปี ไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง ผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย” โดยจับได้ที่ ริมถนนทางหลวงหมายเลข 117 พื้นที่ ต.ท่าโพธิ์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ส.ทล.3 กก.5 (พิษณุโลก) บก.ทล. และ ส.ทล.2 กก.8 (รามอินทรา) บก.ทล.ได้รับแจ้งจากสายลับว่า มีผู้ต้องหาหลบหนีคดีตามหมายจับศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเพชรบุรี ก่อเหตุข่มขืนสาว อายุ 15 ปี กำลังกลับบ้านภรรยาที่จังหวัดพิษณุโลก เจ้าหน้าที่ชุดติดตามจึงได้ประสานชุดปฏิบัติการเพื่อสกัดจับผู้ต้องหา กระทั่งพบรถยนต์หมายเลขทะเบียนตรงตามที่สายลับแจ้ง จึงเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุดเพื่อตรวจสอบ ก่อนพบว่า นายฤทธิชัย เป็นผู้ขับขี่และเป็นบุคคลตามหมายจับ สำหรับคดีนี้ เกิดขึ้นเมื่อปี 2545 นายฤทธิชัย ได้ก่อเหตุใช้กำลังบังคับข่มขืน ผู้เสียหาย อายุ 15 ปี ต่อมา เมื่อทราบว่าผู้เสียหายไปแจ้งความ นายฤทธิชัย จึงได้หลบหนีออกนอกพื้นที่ ไปทำงานและอาศัยอยู่ที่อื่น โดยจะเปลี่ยนที่อยู่ไปเรื่อย ๆ ไม่เป็นหลักแหล่ง และจะแอบเดินทางมาที่บ้านเกิดเป็นบางครั้ง ครั้งละไม่กี่วัน โดยจะไม่ออกไปไหนเพื่อไม่ให้ใครพบเห็น จากการสอบถามนายฤทธิชัย ให้การรับสารภาพว่า เป็นบุคคลตามหมายจับจริง ที่ผ่านมาจะระวังตัวเป็นอย่างมากเพื่อไม่ให้ถูกจับกุมได้ โดยหลบหนีคดีมาได้เป็นเวลา 19 ปี 7 เดือน ซึ่งเหลือเวลาอีกแค่เพียง 5 เดือน คดีจะหมดอายุความ แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจับกุมตัวได้ จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป